Skin Cycling คืออะไร เหมาะกับใคร มีขั้นตอนอย่างไร

Skin Cycling คืออะไร เหมาะกับใคร มีขั้นตอนอย่างไร

ในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลผิวมากขึ้น เทรนด์การดูแลผิวแบบ Skin Cycling กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นวิธีการดูแลผิวที่ไม่ซับซ้อน แต่ให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อผิว ช่วยแก้ปัญหาผิวได้หลากหลาย ทั้งเรื่องริ้วรอย จุดด่างดำ และความชุ่มชื้น มาทำความรู้จักกับวิธีการดูแลผิวแบบนี้ให้มากขึ้น

Skin Cycling คืออะไร

Skin Cycling คืออะไร

Skin Cycling เป็นวิธีการดูแลผิวที่คิดค้นโดย Dr. Whitney Bowe แพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญจากนิวยอร์ก หลักการของ Skin Cycling คือการหมุนเวียนเปลี่ยนผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในแต่ละคืน โดยแบ่งเป็นวงจร 4 คืน แต่ละคืนจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน เพื่อให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างครบถ้วนและมีเวลาพักฟื้นที่เพียงพอ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด “Smarter Skincare, Not More” หรือการดูแลผิวอย่างชาญฉลาด ไม่ใช่การใช้ผลิตภัณฑ์มากเกินความจำเป็น

Skin Cycling ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

การดูแลผิวแบบ Skin Cycling มีประโยชน์หลากหลายด้าน ช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ ดังนี้

Skin Cycling ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวโดยรวมให้ดียิ่งขึ้น

Skin Cycling ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวโดยรวมให้ดียิ่งขึ้น

การจัดระบบการบำรุงผิวแบบ Skin Cycling ช่วยให้ผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการจัดสรรเวลาให้ผิวได้พักฟื้น ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ลดการระคายเคืองจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเข้มข้น และช่วยแก้ปัญหาสิวอุดตันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Skin Cycling ช่วยลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก

Skin Cycling ช่วยลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก

ด้วยการใช้เรตินอลอย่างเป็นระบบในคืนที่กำหนด ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแน่นกระชับ ริ้วรอยตื้นขึ้น และผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยไม่ทำให้ผิวระคายเคืองจนเกิดสิวอักเสบ

Skin Cycling ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและรอยสิว

Skin Cycling ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและรอยสิว

การผสมผสานระหว่างการสครับผิวและการใช้เรตินอล ช่วยรักษารอยสิวและจุดด่างดำให้จางลง ทำให้สีผิวสม่ำเสมอขึ้น โดยไม่ทำให้ผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย

Skin Cycling ช่วยควบคุมความมันและลดการเกิดสิว

Skin Cycling ช่วยควบคุมความมันและลดการเกิดสิว

วงจรการดูแลผิวแบบนี้ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า ลดการอุดตันของรูขุมขน ป้องกันการเกิดสิวผดและสิวอุดตันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Skin Cycling ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

 Skin Cycling ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

การให้ผิวได้พักฟื้นในคืนที่ 3 และ 4 ช่วยฟื้นฟูความชุ่มชื้นให้ผิว เสริมความแข็งแรงให้ผิว และป้องกันการสูญเสียน้ำ ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน

การดูแลผิวแบบ Skin Cycling มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?

การดูแลผิวแบบ Skin Cycling เหมาะกับใครบ้าง

Skin Cycling แบ่งการดูแลผิวเป็น 4 คืน แต่ละคืนมีจุดประสงค์และวิธีการดูแลที่แตกต่างกัน เพื่อให้ผิวได้รับการฟื้นฟูและบำรุงอย่างเหมาะสม ดังนี้

คืนที่ 1 : สครับผิว (Exfoliation Night)

คืนที่ 1 สครับผิว Exfoliation Night

เริ่มต้นด้วยการผลัดเซลล์ผิว โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA BHA หรือ PHA เพื่อขจัดเซลล์ผิวเก่าและสิ่งสกปรกที่อุดตันในรูขุมขน หลังจากนั้นให้ทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นทันที ขั้นตอนนี้ช่วยเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงในคืนถัดไป และช่วยลดการอุดตันที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

คืนที่ 2 : เรตินอล (Retinol Night)

คืนที่ 2 เรตินอล Retinol Night

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอลในปริมาณน้อยแต่มีประสิทธิภาพ โดยทาหลังจากทำความสะอาดผิวแล้ว เรตินอลจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ สำหรับผู้เริ่มต้นควรเลือกใช้เรตินอลความเข้มข้นต่ำก่อนเพื่อให้ผิวปรับตัวได้ง่ายและลดความเสี่ยงในการระคายเคือง

คืนที่ 3 และ 4 : พักผิว (Recovery Night)

คืนที่ 3 และ 4 พักผิว Recovery Night

สองคืนสุดท้ายเป็นช่วงพักฟื้นผิว เน้นการทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยนและการบำรุงด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิว และเสริมความแข็งแรงให้กับ Skin Barrierหรือเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ช่วยให้ผิวพักผ่อนและฟื้นฟูตัวเองได้เต็มที่

การดูแลผิวแบบ Skin Cycling เหมาะกับใครบ้าง?

Skin Cycling เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวต่าง ๆ ดังนี้:

  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ตีนกา และร่องลึก
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ
  • ผู้ที่มีปัญหาเรื่องรอยสิวและฝ้า
  • ผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้เรตินอล
  • ผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแล้วไม่เห็นผล

ข้อควรระวังในการทำ Skin Cycling

ข้อควรระวังในการทำ Skin Cycling
  • ไม่เหมาะกับทุกสภาพผิว ผู้ที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่ายควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ผู้ที่กำลังมีปัญหาสิวอักเสบรุนแรงควรหลีกเลี่ยง
  • ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนเริ่ม เพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกวิธีที่เหมาะสม
  • เริ่มต้นด้วยผลิตภัณฑ์ความเข้มข้นต่ำ  ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวในระยะแรก ค่อย ๆ ปรับเพิ่มความเข้มข้นเมื่อผิวปรับตัวได้
  • สังเกตปฏิกิริยาของผิว หากเกิดการระคายเคือง ควรหยุดใช้และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
  • ไม่ควรเร่งผลลัพธ์ ควรปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างสม่ำเสมอ และไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์รุนแรงเกินไป

สรุปบทความ

Skin Cycling เป็นวิธีการดูแลผิวที่เน้นการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ โดยแบ่งเป็นวงจร 4 คืน ซึ่งช่วยแก้ปัญหาผิวได้หลากหลาย ทั้งเรื่องริ้วรอย จุดด่างดำ และความชุ่มชื้น อย่างไรก็ตาม ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวและเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยต่อผิว

สุดท้ายนี้ สำหรับคนที่มีปัญหาสิวและรอยดำรอยแดงจากสิวที่รักษายาก หมอแนะนำว่า นอกจากการดูแลผิวตาม Skin Cycling การเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาสิวโดยเฉพาะกับ M Vita Clinic ก็เป็นทางเลือกที่ดีในการแก้ปัญหาสภาพผิวของทุกท่านเช่นกันครับ เพราะเราสามารถวินิจฉัยได้ตรงจุด พร้อมช่วยจบปัญหาสิวให้กับทุกเคสได้ตรงจุดที่สุด สำหรับท่านที่กำลังลังเล หมอขอแนะนำ 2 โปรแกรมรักษาสิว ที่ช่วยจบทุกปัญหาสิวได้หมดให้ได้รู้จักกัน 

  • โปรแกรม Medi-Aclear โปรแกรมนี้ จะเป็นการประเมินการรักษากับทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ผ่านการทำทรีตเมนต์แบบล้ำลึก พร้อมกับเลเซอร์ในการช่วยลดรอยสิว โดยจะมี 8 ขั้นตอนในการรักษาแบบครบจบ และยังมียาทานที่ทางแพทย์เป็นผู้แนะนำ เพื่อช่วยจบปัญหาสิว และรอยสิวให้จางลงได้มากถึง 80-90% ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวมีหัว ฯลฯ ก็หายขาดแน่นอน
โปรแกรมรักษาสิวและเลเซอร์รอยสิว Medi Aclear
  • โปรแกรม Ultima-Clear โปรแกรมรักษาสิวด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ Long Pulse Diode 1450nm ชนิดพิเศษที่จะส่งพลังงานลงสู่ต่อมไขมัน เพื่อช่วยลดความมันบนใบหน้า และยังช่วยยับยั้งการเกิดสิว โดยมีฤทธิ์เทียบเท่ากับการทานยา โดยจะเห็นผลขึ้นอย่างชัดเจนหลังรับการรักษา จึงเหมาะกับคนที่ไม่ชอบทานยา หรือไม่อยู่ในสภาวะทานยาได้ 
โปรแกรมรักษาสิวและรอย ไม่ทานยา Ultima-Clear

M Vita Clinic ยินดีให้คำปรึกษา ประเมินการรักษา ฟรี!

ติดต่อ จองคิว ปรึกษาแพทย์

ข้อมูลของ เอ็มวีต้า คลินิก (Mvita Clinic)

  • เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
  • อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
  • เอ็มวีต้า คลินิก (คลิก) ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
  • สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
  • เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
  • ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ

วันเผยแพร่

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า