
สิวที่ปาก หรือสิวขึ้นปาก เป็นปัญหาผิวที่สร้างความรำคาญใจและบั่นทอนความมั่นใจได้ไม่น้อย เพราะเป็นบริเวณที่สังเกตเห็นได้ง่าย หลายคนอาจคิดว่าเกิดจากสาเหตุทั่วไปเหมือนสิวบริเวณอื่น ๆ แต่ความจริงแล้วสิวที่ปาก มีปัจจัยกระตุ้นเฉพาะตัวหลายอย่าง ตั้งแต่เรื่องของฮอร์โมนไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน บทความนี้จาก M Vita Center จะพาไปเจาะลึกถึงสาเหตุ ประเภท พร้อมแนะนำวิธีป้องกันและรักษาสิวที่ปาก อย่างถูกจุด เพื่อให้คุณบอกลาปัญหานี้ได้

สิวที่ปากมีลักษณะอย่างไร
สิวที่ปาก สามารถปรากฏได้หลายลักษณะ ไม่แตกต่างจากสิวบริเวณอื่น ๆ บนใบหน้า โดยอาจพบได้ตั้งแต่สิวอุดตันซึ่งมีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีขาว (สิวหัวขาว) หรือมีจุดดำตรงกลาง (สิวหัวดำ) ไปจนถึงสิวอักเสบที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง กดเจ็บ (Papule) หรือมีหัวหนองสีขาวเหลืองอยู่ด้านบน (Pustule หรือ สิวหัวหนอง) ในบางกรณีที่รุนแรง อาจพบเป็นตุ่มอักเสบขนาดใหญ่และแข็งอยู่ใต้ผิวหนัง (สิวไม่มีหัวเป็นไต) หรือเป็น สิวหัวช้าง ได้เช่นกัน โดยจะขึ้นบริเวณผิวหนังรอบริมฝีปาก ไม่ใช่บนเนื้อริมฝีปากโดยตรง
สิวที่ปากเกิดจากอะไร
การเกิดสิวที่ปาก หรือสิวขึ้นปาก ไม่ได้มีสาเหตุเพียงอย่างเดียว แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่ทำงานร่วมกัน ทำให้เกิดการอุดตันและการอักเสบของรูขุมขนบริเวณรอบริมฝีปาก การเข้าใจถึงต้นตอเหล่านี้จะช่วยให้เราป้องกันและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดมากขึ้นครับ

รูขุมขนอุดตัน
สาเหตุพื้นฐานที่สุดคือการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งเกิดจากการสะสมของน้ำมันส่วนเกิน (Sebum) เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว และสิ่งสกปรกต่าง ๆ เช่น คราบเครื่องสำอาง หรือแม้แต่ลิปบาล์ม เมื่อรูขุมขนบริเวณรอบปากอุดตัน ก็จะเกิดเป็นสิวอุดตัน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสิวที่ปากประเภทต่าง ๆ
ต่อมไขมันผิดปกติ
บริเวณรอบปากก็มีต่อมไขมันเช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ ของใบหน้า หากต่อมไขมันทำงานผิดปกติ คือ ผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป (อาจเกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรม หรือฮอร์โมน) ก็จะเพิ่มโอกาสที่น้ำมันจะไปรวมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้วและสิ่งสกปรก ทำให้เกิดการอุดตันและสิวขึ้นปาก ได้ง่ายขึ้น
แบคทีเรีย
แบคทีเรีย Propionibacterium acnes (P. acnes) ซึ่งอาศัยอยู่บนผิวหนังตามธรรมชาติ สามารถเจริญเติบโตได้ดีในรูขุมขนที่อุดตันไปด้วยน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว การเพิ่มจำนวนของแบคทีเรียเหล่านี้จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ บวม แดง กลายเป็นสิวอักเสบ หรือสิวหัวหนองบริเวณรอบปาก
ฮอร์โมน
การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) มีผลกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิวในช่วงวัยรุ่น หรือช่วงก่อนมีประจำเดือนในผู้หญิง ทำให้เกิดสิวที่ปาก หรือสิวที่คางได้บ่อย ๆ
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้
ผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสกับริมฝีปากและผิวรอบ ๆ โดยตรง เช่น ลิปสติก ลิปบาล์ม ลิปกลอส หรือแม้แต่มอยส์เจอไรเซอร์บางชนิด อาจมีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Comedogenic) เช่น แว็กซ์ หรือน้ำมันบางประเภท ซึ่งสามารถเข้าไปอุดตันรูขุมขนและทำให้เกิดสิวที่ปากได้
อาหารที่กิน
แม้จะยังเป็นที่ถกเถียง แต่มีงานวิจัยบางส่วนชี้ว่าอาหารที่มีน้ำตาลสูง หรือผลิตภัณฑ์จากนม อาจกระตุ้นการอักเสบและส่งผลต่อการเกิดสิวในบางคน นอกจากนี้ คราบอาหารมัน ๆ หรือซอสต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่บริเวณรอบปาก หากไม่เช็ดทำความสะอาดให้ดี ก็อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองและสิวขึ้นปากได้
ยาสีฟัน
ส่วนผสมบางอย่างในยาสีฟัน โดยเฉพาะสารที่ทำให้เกิดฟองอย่าง Sodium Lauryl Sulfate (SLS) หรือฟลูออไรด์ในบางคน อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังที่บอบบางรอบริมฝีปาก ทำให้เกิดผื่นแดง หรือกระตุ้นให้เกิดสิวที่ปากได้ การบ้วนปากและล้างหน้าให้สะอาดหลังแปรงฟันจึงเป็นสิ่งสำคัญ
การใส่หน้ากากอนามัย
การใส่หน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน ๆ ทำให้เกิด “Maskne” หรือสิวจากหน้ากาก ซึ่งเกิดจากการเสียดสี ความอับชื้น การสะสมของเหงื่อ น้ำลาย และแบคทีเรียใต้หน้ากาก ปัจจัยเหล่านี้รบกวนสมดุลผิวและกระตุ้นให้เกิดการอุดตันและการอักเสบบริเวณที่หน้ากากสัมผัส โดยเฉพาะสิวที่ปาก และคาง
การใช้เครื่องสำอาง
เครื่องสำอาง เช่น รองพื้น คอนซีลเลอร์ หรือแป้ง หากมีส่วนผสมที่อุดตันรูขุมขน หรือทำความสะอาดออกไม่หมดจด ก็สามารถสะสมและก่อให้เกิดสิวอุดตัน และสิวอักเสบบริเวณรอบปากได้ การเลือกใช้เครื่องสำอางสูตร Non-comedogenic และการทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึกจึงจำเป็นมาก
ประเภทของสิวที่ปาก

สิวที่ปาก สามารถปรากฏในรูปแบบและลักษณะที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่สิวอุดตันที่ไม่รุนแรง ไปจนถึงสิวอักเสบเม็ดใหญ่ การทำความเข้าใจประเภทของสิวขึ้นปาก จะช่วยให้เลือกวิธีการรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
สิวตุ่มแดง (Papule)
เป็นสิวอักเสบในระยะเริ่มต้น มีลักษณะเป็นตุ่มนูน แดง ขนาดเล็ก กดแล้วอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย ยังไม่มีหัวหนองให้เห็น เกิดจากการอักเสบของรูขุมขนที่อุดตัน
สิวหัวขาว หรือ สิวอุดตันหัวปิด (Whiteheads)
เป็นสิวอุดตันประเภทหนึ่งที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ สีขาวหรือสีเดียวกับผิวหนัง เกิดจากน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วอุดตันอยู่ใต้ผิวหนัง ไม่มีทางเปิดออกสู่ภายนอก ทำให้มองเห็นเป็นหัวปิดสีขาว
สิวหัวดำ หรือ สิวอุดตันหัวเปิด (Blackheads)
เป็นสิวอุดตันที่รูขุมขนเปิดออกสู่ภายนอก ทำให้น้ำมันและเซลล์ผิวที่อุดตันอยู่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ (Oxidation) และเปลี่ยนเป็นสีดำ มองเห็นเป็นจุดดำ ๆ เล็ก ๆ บริเวณรูขุมขน
สิวเทียม สิวผด สิวหิน (Acne Aestivalis)
บางครั้งตุ่มที่ขึ้นรอบปากอาจไม่ใช่สิวจริง ๆ อาจเป็นสิวผด (มักมีลักษณะเป็นผื่นเล็ก ๆ คล้ายกัน อาจคัน เกิดจากเชื้อราหรือความร้อน) หรือ สิวหิน (Milia – ตุ่มซีสต์แข็งสีขาว) หรืออาจเป็นผื่นผิวหนังอักเสบชนิดอื่น เช่น Perioral Dermatitis การแยกประเภทให้ถูกต้องจึงสำคัญ
สิวหัวหนอง (Pustule)
เป็นสิวอักเสบที่พัฒนามาจากสิวตุ่มแดง มีลักษณะเป็นตุ่มบวมแดง และมีหัวหนองสีขาวเหลืองอยู่ตรงกลางอย่างชัดเจน หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า สิวหัวหนอง เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย
สิวตุ่มแดงขนาดใหญ่ (Nodule)
เป็นสิวอักเสบรุนแรงชนิดหนึ่งที่อยู่ลึกลงไปใต้ชั้นผิวหนัง มีลักษณะเป็นตุ่มแข็งขนาดใหญ่ บวม แดง กดเจ็บมาก และไม่มีหัวหนอง หรืออาจเรียกว่า สิวไม่มีหัวเป็นไต มักใช้เวลานานในการหายและเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็น
สิวหัวช้าง (Nodulocystic acne)
เป็นสิวอักเสบที่รุนแรงที่สุด ลักษณะเป็นก้อนนูนขนาดใหญ่ หรือถุงซีสต์ใต้ผิวหนัง ภายในอาจมีหนองปนเลือด สิวหัวช้าง สร้างความเจ็บปวดอย่างมาก และมีความเสี่ยงสูงที่จะทิ้งรอยแผลเป็นหลุมลึกไว้หลังสิวยุบ
สิวเสี้ยน (Small Pimple)
คำว่า “สิวเสี้ยน” มักใช้เรียกตุ่มเล็ก ๆ หรือจุดดำ ๆ บริเวณจมูก ซึ่งเกิดจากกลุ่มขนอ่อนและไขมันอุดตัน แต่บางครั้งก็อาจพบตุ่มคล้ายกันบริเวณรอบปากได้ ซึ่งอาจเป็นสิวอุดตันขนาดเล็กมาก หรือรูขุมขนอักเสบเล็กน้อย
วิธีรักษาสิวที่ปาก สิวขึ้นรอบปากให้หาย ไม่ทิ้งรอย
การรักษาสิวที่ปาก หรือสิวขึ้นปากมีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับประเภทและความรุนแรงของสิวที่เป็น การเลือกวิธีที่เหมาะสมจะช่วยให้สิวยุบเร็วขึ้น ลดโอกาสการเกิดรอยดำ รอยแดง หรือรอยแผลเป็น ที่ M Vita Center เรามีแนวทางการรักษาดังนี้
กดสิวที่ปาก

การกดสิวอย่างถูกวิธีโดยผู้เชี่ยวชาญ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการกำจัดสิวอุดตัน (สิวหัวดำ, สิวหัวขาว) หรือ สิวหัวหนอง ที่สุกเต็มที่ การกดสิวที่คลินิกจะใช้เครื่องมือที่สะอาดปลอดเชื้อและเทคนิคที่ถูกต้อง ช่วยลดการอุดตัน ป้องกันการลุกลามเป็นสิวอักเสบและลดความเสี่ยงของการเกิดรอยแผลเป็นจากการบีบเค้นด้วยตนเอง ไม่แนะนำให้กดสิวที่ปากเอง โดยเฉพาะสิวอักเสบลึก ๆ เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงและติดเชื้อได้
เลเซอร์สิวที่ปาก

เทคโนโลยีเลเซอร์สามารถนำมาใช้รักษาสิวที่ปากได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับปัญหาและชนิดของเลเซอร์ เช่น เลเซอร์ที่ช่วยฆ่าเชื้อ P. acnes ลดการอักเสบ, เลเซอร์ที่ช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน, หรือเลเซอร์ที่ช่วยลดรอยแดง รอยดำหลังสิวหาย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อลดรอยแผลเป็น การรักษาด้วยเลเซอร์ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ M Vita Center เพื่อเลือกชนิดของเลเซอร์และตั้งค่าพลังงานที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความรุนแรงของสิวขึ้นปาก
ฉีดสิวที่ปาก

การฉีดสิวด้วยยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ เหมาะสำหรับสิวอักเสบรุนแรงเม็ดใหญ่ เช่น สิวไม่มีหัวเป็นไต หรือสิวหัวช้างที่ขึ้นบริเวณรอบปาก การฉีดจะช่วยลดการอักเสบ บวม แดง และเจ็บได้อย่างรวดเร็วภายใน 1-3 วัน ทำให้สิวยุบเร็วขึ้นและลดความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็นหลุม อย่างไรก็ตาม วิธีนี้เป็นการรักษาเฉพาะจุด และควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง เช่น ผิวบุ๋ม ไม่เหมาะกับสิวที่ปากประเภทอื่น ๆ ที่ไม่รุนแรง
ใช้แผ่นแปะสิว

แผ่นแปะสิว (Acne Patch) ส่วนใหญ่ทำจากไฮโดรคอลลอยด์ มีคุณสมบัติดูดซับของเหลวจากสิวหัวหนองที่แตกออก หรือสิวที่กำลังสุกได้ดี ช่วยสร้างสภาวะที่เหมาะสมในการสมานแผล และยังช่วยป้องกันไม่ให้มือไปสัมผัส แกะ หรือเกาสิวที่ปากลดการปนเปื้อนจากภายนอก อย่างไรก็ตาม แผ่นแปะสิวไม่สามารถรักษาสิวที่อยู่ลึก หรือสิวอุดตันได้ แต่เป็นตัวช่วยเสริมที่ดีสำหรับการจัดการสิวบางประเภท
ทายารักษาสิวที่ปาก

การใช้ยาทาเป็นวิธีพื้นฐานในการรักษาสิวที่ปากสำหรับสิวที่ไม่รุนแรงถึงปานกลาง อาจใช้ยาที่หาซื้อได้เอง เช่น Benzoyl Peroxide (ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย), Salicylic Acid (ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดอุดตัน) หากอาการไม่ดีขึ้น หรือเป็นสิวอักเสบค่อนข้างเยอะ ควรปรึกษาแพทย์ที่ M Vita Center เพื่อพิจารณาใช้ยาตามใบสั่งแพทย์ เช่น ยาทากลุ่มเรตินอยด์ (ช่วยลดอุดตันและอักเสบ), ยาปฏิชีวนะเฉพาะที่, หรือ Azelaic Acid ควรทาอย่างระมัดระวังเพราะผิวรอบปากอาจบอบบาง
สรุปบทความ
สิวที่ปาก อาจส่งผลต่อความมั่นใจ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในจุดที่มองเห็นชัด อย่างบริเวณรอบริมฝีปาก อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าใจสาเหตุและแนวทางป้องกันที่เหมาะสม การดูแลสิวบริเวณนี้ก็สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หากคุณมีปัญหาสิวที่ปากที่ยังไม่ดีขึ้น หรือมีลักษณะที่รุนแรง ควรเข้ารับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนการดูแลที่เหมาะสมกับสภาพผิว เช่น การใช้ยา การทำหัตถการ หรือนวัตกรรมเลเซอร์ที่เหมาะสม โดยทีมแพทย์ของ M Vita Center พร้อมให้คำแนะนำในทุกขั้นตอน เพื่อช่วยดูแลสุขภาพผิวของคุณอย่างปลอดภัยและเป็นระบบ
ติดต่อ จองคิว ปรึกษาแพทย์
ข้อมูลของ เอ็มวีต้า คลินิก (Mvita Clinic)
- เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
- อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
- ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
- สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
- เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
- ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ
วันเผยแพร่