ปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียนเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวขรุขระ เป็นตุ่ม มีรูขุมขนกว้าง หรือผิวไม่เรียบเนียนจากสาเหตุต่าง ๆ ล้วนทำให้การแต่งหน้าไม่ติดทนและผิวดูไม่สวยใส บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจสาเหตุและวิธีการแก้ไขปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียนอย่างตรงจุด
ปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง เป็นตุ่ม เกิดจากอะไร?
ก่อนที่เราจะรู้วิธีการแก้ไข เรามาทำความเข้าใจสาเหตุของปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียนกันก่อน โดยสาเหตุหลัก ๆ มีดังนี้
- ความเครียด เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมา ส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายแปรปรวน รวมถึงการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้เกิดสิวอุดตัน และผิวหน้าไม่เรียบเนียนตามมา
- มลภาวะต่าง ๆ ทั้งแสงแดด ฝุ่น PM2.5 และมลพิษในอากาศ เป็นปัจจัยที่หลีกเลี่ยงได้ยาก สิ่งเหล่านี้ทำให้ผิวเสื่อมโทรม คอลลาเจนถูกทำลาย และกระตุ้นให้เกิดสิวผดได้ง่าย ส่งผลให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียนเป็นตุ่ม
- การดูแลผิวที่ไม่ดีพอ เช่น การล้างหน้าไม่สะอาด หรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว อาจทำให้เกิดสิวอักเสบผื่นแพ้ และการระคายเคือง จนกลายเป็นปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียน
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้การผลิตคอลลาเจนในร่างกายลดลง ส่งผลต่อความแข็งแรงของผิว เกิดริ้วรอย ร่องลึก และผิวหย่อนคล้อย ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน
- การสะสมของเซลล์ผิวเก่าและแบคทีเรีย เมื่อร่างกายผลัดเซลล์ผิวแต่เซลล์เก่ายังคงเกาะติดอยู่ ร่วมกับสิ่งสกปรกและแบคทีเรีย ทำให้เกิดการอุดตันและอักเสบ กลายเป็นสิวอักเสบและผิวหน้าไม่เรียบเนียน
- พันธุกรรม ส่งผลต่อลักษณะของผิว เช่น รูขุมขนกว้าง ขนดก หรือผิวที่บอบบางแพ้ง่าย ทำให้เกิดปัญหาหน้าไม่เรียบเนียนรูขุมขนกว้าง
- ฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนโดยเฉพาะในวัยรุ่นและคนท้อง ทำให้เกิดปัญหาสิวและรูขุมขนกว้างได้ง่าย
ปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียนมีกี่รูปแบบ
ปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียนมีหลายรูปแบบ แต่ละแบบมีลักษณะและการรักษาที่แตกต่างกัน ดังนี้
หน้าไม่เรียบเนียนจากปัญหาสิว (Acne)
สิวอักเสบและสิวอุดตันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน โดยสิวแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะดังนี้:
- สิวผด มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ ใต้ผิว ไม่มีหัว มักเกิดจากการระคายเคืองจากแสงแดด ฝุ่น และมลภาวะ ทำให้ผิวขรุขระเมื่อสัมผัส
- สิวอุดตัน เป็นสิวที่มีหัวสีดำหรือขาว เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน ต้องรักษาด้วยการทำความสะอาดผิวอย่างลึก และอาจต้องรับการกดสิวจากผู้เชี่ยวชาญ
- สิวอักเสบ มีลักษณะเป็นตุ่มแดง บวม อาจมีหนอง เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ต้องการการรักษาด้วยยาต้านการอักเสบและยาฆ่าเชื้อ
- สิวหัวช้าง เป็นสิวที่มีการอักเสบรุนแรง เป็นก้อนใหญ่ และเจ็บ มักทิ้งรอยแผลเป็นถาวร จำเป็นต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ผิวหนังโดยเร็ว
หน้าไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง
รูขุมขนกว้างเป็นปัญหาที่พบบ่อยในบริเวณ T-Zone โดยเฉพาะบริเวณจมูกและแก้ม สาเหตุหลักเกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป ทำให้รูขุมขนขยายตัว นอกจากทำให้ผิวไม่เรียบเนียนแล้ว ยังทำให้เกิดความมันบนใบหน้า เครื่องสำอางเลื่อนหลุดง่าย และเพิ่มโอกาสการเกิดสิวอีกด้วย การแก้ไขต้องเริ่มจากการควบคุมความมันบนใบหน้า และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกระชับรูขุมขน
หน้าไม่เรียบเนียนจากโรคผิวหนัง
โรคผิวหนังที่ทำให้ผิวไม่เรียบเนียนมีหลายชนิด เช่น เนื้องอกผิวหนัง (Neoplasms) ที่ทำให้เกิดตุ่มนูนบนผิว โรคผิวหนังอักเสบที่ทำให้ผิวแดง คัน และลอกเป็นขุย หรือโรคสะเก็ดเงินที่ทำให้ผิวหนาและลอก การรักษาต้องได้รับการวินิจฉัยที่แม่นยำจากแพทย์ผิวหนังเพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม
ผิวหน้าไม่เรียบเนียนเป็นตุ่ม
ตุ่มบนใบหน้ามักเกิดจากซีสต์ (Cyst) หรือสิวข้าวสาร (Milia) ซึ่งมีลักษณะเป็นตุ่มกลมเล็ก ๆ สีขาวนวล ไม่มีหัว เกิดจากการสะสมของสารเคราตินในชั้นผิว พบได้บ่อยบริเวณใต้ตาและแก้ม การรักษาต้องทำโดยแพทย์ผิวหนังด้วยการเจาะเอาถุงซีสต์ออก ไม่ควรแกะหรือบีบเอง เพราะอาจเกิดแผลเป็นได้
หน้าไม่เรียบเนียนจากหลุมสิว
หลุมสิวเกิดจากการรักษารอยสิวที่ไม่ถูกวิธี โดยเฉพาะการแกะหรือบีบสิวเอง ทำให้เกิดการทำลายเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง เมื่อสิวหายแล้ว ผิวจะยุบตัวเป็นหลุม มีหลายรูปแบบ เช่น หลุมกลม (Ice pick scars) หลุมตื้น (Rolling scars) และหลุมขอบชัด (Boxcar scars) การรักษาต้องใช้เทคโนโลยีเฉพาะทาง เช่น เลเซอร์ หรือการฉีดฟิลเลอร์
หน้าไม่เรียบเนียนจากริ้วรอย
ริ้วรอยเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งการลดลงของคอลลาเจนและอีลาสตินตามวัย การสูญเสียความชุ่มชื้น และการทำลายของรังสี UV ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น เกิดเป็นร่องลึกและรอยย่น โดยเฉพาะบริเวณหางตา หน้าผาก และร่องแก้ม การป้องกันทำได้โดยการทาครีมกันแดดเป็นประจำ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ
หน้าไม่เรียบเนียนจากสภาพผิวแห้ง
ผิวแห้ง (Xerosis) เป็นภาวะที่ผิวขาดความชุ่มชื้น ทำให้เกิดอาการแห้งตึง แตกเป็นขุย และอาจมีอาการคันร่วมด้วย พบได้บ่อยในช่วงอากาศเย็นและแห้ง หรือในผู้ที่อยู่ในห้องปรับอากาศเป็นเวลานาน ผิวแห้งจะทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย และอาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของผิวหนังได้ การรักษาต้องเน้นการเพิ่มความชุ่มชื้นด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะสม
หน้าไม่เรียบเนียนจากขน
ขนบนใบหน้าที่มากเกินไปนอกจากจะทำให้การแต่งหน้าไม่เรียบเนียนแล้ว ยังอาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติของฮอร์โมนได้ สาเหตุมีหลายประการ เช่น พันธุกรรม การใช้ยาสเตียรอยด์ ยาไมน็อกซิดิล หรือยาคุมกำเนิดบางชนิด การแก้ไขทำได้หลายวิธี ตั้งแต่การกำจัดขนชั่วคราวไปจนถึงการใช้เลเซอร์กำจัดขนถาวร แต่ควรปรึกษาแพทย์หากสงสัยว่ามีความผิดปกติของฮอร์โมน
วิธีดูแลและแก้ปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง เป็นตุ่ม
การแก้ไขปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียนต้องทำอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ด้วยวิธีการต่อไปนี้
ล้างหน้าให้สะอาด
ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิว ใช้คลีนเซอร์เช็ดเครื่องสำอางก่อนล้างหน้า และหลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนเพราะจะทำให้ผิวแห้ง
ใช้สกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพผิว
เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ ไม่ว่าจะเป็นผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสม หากไม่แน่ใจควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
สครับผิว
การสครับผิวช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าและสิ่งสกปรก ลดการอุดตัน และกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
ครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีและแสงแดด ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยและความหมองคล้ำ
ทำหัตถการกลุ่มเมโส
การทำเมโสช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรง เรียบเนียน และลดการเกิดสิว มีหลายตัวเลือกเช่น Rejuran, Crystal DNA และ Made Collagen
ทำหัตถการกลุ่มเลเซอร์ผิว
เลเซอร์ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน รวมถึงลดเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวกระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้น เช่น Pico Laser หรือ IPL
กดสิว
การกดสิวช่วยเอาหัวสิวอุดตันและซีสต์ออก แต่ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็น
ใช้ยาหรือสารบำรุงผิว
การใช้วิตามินเอหรือสารเร่งผลัดเซลล์ผิวช่วยลดการเกิดสิว รักษารอยสิว และชะลอการเกิดริ้วรอย แต่ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
สรุปบทความ
ปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียนเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและมีหลายสาเหตุ ตั้งแต่ปัจจัยภายในร่างกายอย่างฮอร์โมนและพันธุกรรม ไปจนถึงปัจจัยภายนอกอย่างมลภาวะและการดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม การแก้ไขปัญหาหน้าไม่เรียบเนียนรูขุมขนกว้างจำเป็นต้องเริ่มจากการดูแลผิวพื้นฐานที่ถูกต้อง ร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์และการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
หากคุณมีปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียนเป็นตุ่มที่รักษาด้วยตัวเองแล้วไม่ดีขึ้น หมอแนะนำว่า การเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาสิวโดยเฉพาะกับ M Vita Clinic ก็เป็นทางเลือกที่ดีในการแก้ปัญหาสภาพผิวของทุกท่านเช่นกันครับ เพราะเราสามารถวินิจฉัยได้ตรงจุด พร้อมช่วยจบปัญหาสิวให้กับทุกเคสได้ตรงจุดที่สุด สำหรับท่านที่กำลังลังเล หมอขอแนะนำ 2 โปรแกรมรักษาสิว ที่ช่วยจบทุกปัญหาสิวได้หมดให้ได้รู้จักกัน
- โปรแกรม Medi-Aclear โปรแกรมนี้ จะเป็นการประเมินการรักษากับทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ผ่านการทำทรีตเมนต์แบบล้ำลึก พร้อมกับเลเซอร์ในการช่วยลดรอยสิว โดยจะมี 8 ขั้นตอนในการรักษาแบบครบจบ และยังมียาทานที่ทางแพทย์เป็นผู้แนะนำ เพื่อช่วยจบปัญหาสิว และรอยสิวให้จางลงได้มากถึง 80-90% ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวมีหัว ฯลฯ ก็หายขาดแน่นอน
- โปรแกรม Ultima-Clear โปรแกรมรักษาสิวด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ Long Pulse Diode 1450nm ชนิดพิเศษที่จะส่งพลังงานลงสู่ต่อมไขมัน เพื่อช่วยลดความมันบนใบหน้า และยังช่วยยับยั้งการเกิดสิว โดยมีฤทธิ์เทียบเท่ากับการทานยา โดยจะเห็นผลขึ้นอย่างชัดเจนหลังรับการรักษา จึงเหมาะกับคนที่ไม่ชอบทานยา หรือไม่อยู่ในสภาวะทานยาได้
M Vita Clinic ยินดีให้คำปรึกษา ประเมินการรักษา ฟรี!
ติดต่อ จองคิว ปรึกษาแพทย์
ข้อมูลของ เอ็มวีต้า คลินิก (Mvita Clinic)
- เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
- อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
- เอ็มวีต้า คลินิก (คลิก) ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
- สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
- เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
- ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ
วันเผยแพร่
