
สิวหัวดำเป็นปัญหาผิวที่สร้างความกังวลใจให้กับหลายคน เพราะนอกจากจะทำให้ใบหน้าดูไม่สวยงามแล้ว ยังอาจพัฒนาเป็นสิวอักเสบที่รุนแรงได้ มาทำความรู้จักกับปัญหาสิวหัวดำเกิดจากอะไร พร้อมวิธีแก้ไขที่ได้ผลจริง
สิวหัวดำคืออะไร?

สิวหัวดำเป็นสิวอุดตันประเภทหัวเปิด หรือ Open Comedone มีลักษณะเป็นตุ่มนูนขนาดเล็กประมาณ 0.1-3 มิลลิเมตร มีหัวสีดำอยู่ตรงกลาง สามารถมองเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่า เมื่อกดจะมีลักษณะแข็งและไม่ยุบ ไม่มีอาการเจ็บเนื่องจากไม่มีการติดเชื้อหรือการอักเสบภายใน
สิวหัวดำเกิดจากอะไร?
สาเหตุหลักของการเกิดสิวหัวดำเกิดจากการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ไขมัน และสิ่งสกปรกภายในรูขุมขน เมื่อสิ่งเหล่านี้สัมผัสกับออกซิเจนในอากาศ จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันทำให้กลายเป็นสีดำ โดยมีปัจจัยกระตุ้นหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น

- การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย สาเหตุสำคัญที่กระตุ้นการเกิดสิวหัวดำ โดยเฉพาะในช่วงมีประจำเดือน ตั้งครรภ์ หรือช่วงเครียด รวมถึงการใช้ยาคุมกำเนิดหรือยาสเตียรอยด์ ที่ส่งผลต่อการทำงานของต่อมไขมันใต้ผิวหนัง
- ปัจจัยทางพันธุกรรม พบบ่อยในผู้ชายที่มีระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนสูง ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป ส่งผลให้เกิดการอุดตันและอาจพัฒนาเป็นสิวเป็นไตได้ง่าย
- การล้างหน้าที่ไม่สะอาด การล้างเครื่องสำอางไม่หมดหรือทำความสะอาดผิวไม่ดีพอ ทำให้สิ่งสกปรกตกค้างและสะสมในรูขุมขน จนเกิดเป็นสิวผดและสิวหัวดำได้
- การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะอาหารทอด อาหารมัน และอาหารรสจัด สามารถกระตุ้นการผลิตน้ำมันบนผิวหนังและเพิ่มโอกาสการเกิดสิวได้
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต ทั้งการนอนดึก ความเครียด การสัมผัสหน้าด้วยมือไม่สะอาด หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม ล้วนส่งผลต่อการเกิดสิวหัวดำ
- การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับประเภทผิวหรือมีส่วนผสมที่มีแนวโน้มทำให้รูขุมขนอุดตัน
สิวหัวดำกับสิวเสี้ยนหัวดำต่างกันอย่างไร
แม้จะดูคล้ายกัน แต่สิวหัวดำและสิวเสี้ยนหัวดำเป็นปัญหาผิวคนละประเภท สิวหัวดำเกิดจากการอุดตันของไขมันและเซลล์ผิวในรูขุมขน ส่วนสิวเสี้ยนหัวดำเกิดจากรูขุมขนและต่อมไขมันทำงานผิดปกติ มีการสร้างเส้นขน 5-25 เส้นต่อรู จนเกิดการอุดตันร่วมกับเซลล์ผิวและไขมัน
6 วิธีรักษาสิวหัวดำ แนะนำโดยแพทย์รักษาสิว
การรักษาสิวหัวดำมีหลายวิธี ตั้งแต่การใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะที่ไปจนถึงการทำหัตถการทางการแพทย์ แต่ละวิธีมีข้อดีและความเหมาะสมแตกต่างกัน ดังนี้
1. ใช้ยาละลายหัวสิว

ยาละลายหัวสิวที่นิยมใช้มีสองกลุ่มหลัก คือ อนุพันธ์วิตามินเอ (เช่น เรตินเอ เรตินอล) และยากลุ่มเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ ยาเหล่านี้ช่วยผลัดเซลล์ผิวและปรับโครงสร้างผิวชั้นบน ทำให้สิวหัวดำหลุดออกง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยรักษารอยสิวได้อีกด้วย
2. ใช้เวชสำอางที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว

เวชสำอางที่มีส่วนผสมของกรดผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA BHA และ PHA ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน และป้องกันการเกิดสิวอุดตันได้ในระยะยาว โดย BHA จะช่วยละลายความมันในรูขุมขน เหมาะกับผิวมัน ส่วน AHA และ PHA เหมาะกับผิวแห้งและบอบบาง ควรใช้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อไม่ให้ผิวระคายเคือง
3. เลเซอร์สิวหัวดำ

การใช้เลเซอร์ โดยเฉพาะ CO2 และพิโคเลเซอร์ ช่วยให้สิวหัวดำหลุดออกง่ายขึ้น ลดการอุดตัน และช่วยรักษารอยสิวไปพร้อมกัน วิธีนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้รูขุมขนกระชับขึ้น และยังสามารถแก้ไขปัญหาหลุมสิวได้อีกด้วยฃ

4. กดสิวอุดตันหัวดำ

การกดสิวอุดตันหัวดำเป็นวิธีกำจัดสิวหัวดำโดยตรง แต่ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้วยเครื่องมือที่สะอาด เพื่อป้องกันการอักเสบและการเกิดหลุมสิว นอกจากนี้หากทำไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดแผลเป็นและรอยดำตามมาได้
5. ฉีดเมโสหน้าใส

การฉีดเมโสหน้าใสด้วยสารพิเศษ เช่น เมด คอลลาเจน หรือ Filorga ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายใน ลดการอุดตัน และป้องกันการเกิดสิวผดและสิวหัวดำในระยะยาว วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำหรือรูขุมขนกว้างร่วมด้วย เพราะช่วยปรับสภาพผิวให้แข็งแรงและกระจ่างใสขึ้น
6. เข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์รักษาสิว หรือแพทย์ผิวหนัง

สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวหัวดำรุนแรงหรือเรื้อรัง การพบแพทย์ผิวหนังเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แพทย์จะประเมินสภาพผิวและเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสม อาจรวมถึงการจ่ายยาทาเฉพาะที่หรือยารับประทาน เพื่อป้องกันการเกิดสิวอักเสบตามมา
สิวหัวดำบีบได้ไหม?
การบีบสิวหัวดำด้วยตัวเองไม่ใช่วิธีที่แนะนำ แม้จะดูง่ายและได้ผลเร็ว แต่อาจทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่น การอักเสบ สิวเป็นไต หรือแผลเป็น ควรปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้กดสิวด้วยเครื่องมือที่เหมาะสมและถูกสุขลักษณะ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาผิวในระยะยาว
สิวหัวดำบีบไม่ออก เกิดจากอะไร?
สิวหัวดำที่บีบไม่ออกมักเกิดจากการที่สิวอยู่ลึกในรูขุมขน หรือมีการอุดตันที่แน่นมาก การพยายามบีบอาจทำให้เกิดสิวอักเสบได้ ในกรณีนี้ควรใช้ผลิตภัณฑ์ละลายหัวสิว เช่น ยาทาที่มีกรดซาลิไซลิกหรือเรตินอยด์ หรือปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
เป็นสิวหัวดำไปหาหมอดีไหม?
ควรพบแพทย์ผิวหนังเมื่อ
- มีสิวหัวดำจำนวนมากหรือเป็นซ้ำที่เดิม
- รักษาด้วยผลิตภัณฑ์ทั่วไปแล้วไม่ดีขึ้น
- มีแนวโน้มเกิดสิวอุดตันหรือการอักเสบ
- ต้องการคำแนะนำในการดูแลผิวที่ถูกวิธี
แพทย์จะประเมินสภาพผิวและให้การรักษาที่เหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึงการใช้ยา การทำทรีทเมนต์ หรือการแนะนำการดูแลผิวที่ถูกต้อง
สรุปบทความ
สิวหัวดำเป็นปัญหาผิวที่พบบ่อยและมีวิธีรักษาหลากหลาย การเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความรุนแรงของปัญหาเป็นสิ่งสำคัญ ควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลผิวให้เหมาะสม ทั้งการทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว และการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อป้องกันการเกิดสิวซ้ำในอนาคต
สุดท้ายนี้ สำหรับคนที่มีปัญหาสิวหัวดำจำนวนมาก หรือลองรักษาด้วยตัวเองแล้วไม่หาย หมอแนะนำว่า การเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาสิวโดยเฉพาะกับ M Vita Clinic ก็เป็นทางเลือกที่ดีในการแก้ปัญหาสภาพผิวของทุกท่านเช่นกันครับ เพราะเราสามารถวินิจฉัยได้ตรงจุด พร้อมช่วยจบปัญหาสิวให้กับทุกเคสได้ตรงจุดที่สุด สำหรับท่านที่กำลังลังเล หมอขอแนะนำ 2 โปรแกรมรักษาสิว ที่ช่วยจบทุกปัญหาสิวได้หมดให้ได้รู้จักกัน

- โปรแกรม Medi-Aclear โปรแกรมนี้ จะเป็นการประเมินการรักษากับทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ผ่านการทำทรีตเมนต์แบบล้ำลึก พร้อมกับเลเซอร์ในการช่วยลดรอยสิว โดยจะมี 8 ขั้นตอนในการรักษาแบบครบจบ และยังมียาทานที่ทางแพทย์เป็นผู้แนะนำ เพื่อช่วยจบปัญหาสิว และรอยสิวให้จางลงได้มากถึง 80-90% ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวมีหัว ฯลฯ ก็หายขาดแน่นอน

- โปรแกรม Ultima-Clear โปรแกรมรักษาสิวด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ Long Pulse Diode 1450nm ชนิดพิเศษที่จะส่งพลังงานลงสู่ต่อมไขมัน เพื่อช่วยลดความมันบนใบหน้า และยังช่วยยับยั้งการเกิดสิว โดยมีฤทธิ์เทียบเท่ากับการทานยา โดยจะเห็นผลขึ้นอย่างชัดเจนหลังรับการรักษา จึงเหมาะกับคนที่ไม่ชอบทานยา หรือไม่อยู่ในสภาวะทานยาได้
M Vita Clinic ยินดีให้คำปรึกษา ประเมินการรักษา ฟรี!
ติดต่อ จองคิว ปรึกษาแพทย์
ข้อมูลของ เอ็มวีต้า คลินิก (Mvita Clinic)
- เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
- อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
- เอ็มวีต้า คลินิก (คลิก) ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
- สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
- เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
- ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ
วันเผยแพร่