
เคยไหมครับ? ส่องกระจกทีไรก็มักจะเห็นสิวขึ้นบริเวณกรอบหน้า รอบปาก หรือบริเวณคางซ้ำ ๆ อยู่ตลอด ดูแลรักษาเท่าไหร่? ปัญหาสิวเหล่านี้ก็ไม่จางหายไปสักที หรือถ้าหายแล้วก็มักกลับมาเป็นบ่อย ๆ ซึ่งปัญหาสิวลักษณะนี้คือสิวฮอร์โมนนั่นเองครับ แต่จริง ๆ แล้วสิวฮอร์โมนเหล่านี้เกิดจากอะไรกันแน่ หรือเราจะมีวิธีรักษาสิวฮอร์โมนอย่างไรได้บ้างนั้น ติดตามในบทความนี้ไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ
สิวฮอร์โมนเกิดจากสาเหตุอะไร?
ก่อนจะไปดูว่ามีวิธีไหนช่วยรักษาสิวฮอร์โมนได้บ้างนั้น หมอขอแนะนำคนไข้ว่า ควรรู้จักกับสาเหตุที่แท้จริงของสิวฮอร์โมนกันก่อนครับ ซึ่งสิวประเภทนี้เกิดจากฮอร์โมนร่างกายที่ขาดความสมดุลกัน โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่นที่ร่างกายจะมีการผลิตฮอร์โมนเพศชาย หรือฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีส่วนกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน จึงผลิตความมันส่วนเกินออกมามากกว่าปกติ จนเกิดการอุดตันรูขุมขน และพัฒนากลายเป็นสิวฮอร์โมนในที่สุดครับ
อีกทั้งสิวฮอร์โมนก็มักจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน ช่วงตั้งครรภ์ หรือแม้แต่หลังคลอดบุตรแล้วก็ยังสามารถเผชิญกับปัญหาสิวฮอร์โมนได้อยู่ครับ เนื่องจากช่วงเวลาเหล่านี้จะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายมีระดับฮอร์โมนแปรปรวนมากที่สุดนั่นเองครับ
ลักษณะของสิวฮอร์โมน
สิวฮอร์โมนมักมาในรูปแบบของสิวอุดตัน และสิวอักเสบที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่จะมีลักษณะบางอย่างที่แตกต่างออกไปครับ โดยมักจะขึ้นในช่วงเวลาเดิม ๆ อย่างช่วงที่มีประจำเดือน ช่วงตั้งครรภ์ หรือช่วงที่เกิดภาวะเครียด ฮอร์โมนร่างกายไม่สมดุล และมักจะเกิดขึ้นในบริเวณเดิม ๆ เช่น คาง รอบริมฝีปาก กรอบหน้า สันกราม และลำคอ เป็นต้น
วิธีรักษาสิวฮอร์โมน ให้หน้ากลับมาเนียนใส
หากคุณมีปัญหาสิวฮอร์โมน หมอก็ขอแนะนำให้คนไข้ดูแลรักษาสิวฮอร์โมนตามวิธีดังต่อไปนี้ครับ เพื่อเรียกคืนผิวหน้าที่เนียนใสไร้สิวอีกครั้ง
1. ใช้ยาทารักษาสิวฮอร์โมน

เราสามารถรักษาสิวฮอร์โมนด้วยการใช้ยาทาบางชนิดได้ครับ เช่น กลุ่มอนุพันธ์วิตามิน A กลุ่ม Benzoyl Peroxide หรือกลุ่ม Azelaic acid เพื่อเร่งการผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันรูขุมขนไปพร้อม ๆ กับฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุการเกิดสิว ทั้งนี้การใช้ยาทารักษาสิวฮอร์โมน หมอแนะนำว่าควรศึกษาวิธีใช้ให้แน่ชัด และต้องอยู่ภายใต้การดูแลของเภสัชกร หรือแพทย์ผู้ชำนาญการเท่านั้นนะครับ เพื่อป้องกันอาการระคายเคืองผิว และช่วยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดบางอย่างของยาที่ไม่เหมาะกับผู้ใช้บางรายได้อย่างเหมาะสมครับ
2. ฉีดสิว

ในกรณีที่เป็นสิวฮอร์โมนในรูปแบบของสิวอักเสบ หรือสิวหัวช้างที่มีลักษณะอักเสบรุนแรง หรืออาจเป็นสิวก้อนไตแข็งอยู่ใต้ผิว หมอแนะนำให้เข้ารับบริการฉีดสิวเพื่อลดการอักเสบของสิว และละลายหัวสิวให้เล็กลง ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการเช่นเดียวกันนะครับ เพราะคุณหมอจะสามารถคำนวณปริมาณยาที่ใช้กับปัญหาสิวได้อย่างเหมาะสม และฉีดสิวได้ถูกตำแหน่งเพื่อป้องกันปัญหาผิวเป็นหลุมสิว หรือเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ครับ
3. เลเซอร์รักษาสิวฮอร์โมน

หากต้องการดูแลรักษาสิวฮอร์โมนแบบเร่งด่วนโดยไม่เจ็บตัว หมอแนะนำให้ลองเลือกใช้วิธีเลเซอร์รักษาสิวฮอร์โมนเลยครับ ซึ่งจะเป็นการอาศัยพลังงานเลเซอร์ยิงลงลึกถึงต่อมไขมัน เพื่อลดการทำงานของต่อมไขมัน พร้อมช่วยลดความมันส่วนเกินบนผิว จึงสามารถช่วยลดปัญหาสิวอุดตัน และลดการเกิดสิวอักเสบได้อย่างตรงจุดครับ
4. ฉายแสงเลเซอร์ฆ่าเชื้อสิว

นอกจากเลเซอร์รักษาสิวแล้ว การฉายแสงเลเซอร์ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีรักษาสิวฮอร์โมนที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันครับ โดยจะเป็นการฉายแสงเลเซอร์เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุการเกิดสิว เหมาะสำหรับปัญหาสิวอักเสบ สิวเรื้อรัง หรือปัญหาสิวดื้อยาโดยเฉพาะ อีกทั้งการฉายแสงยังมีส่วนช่วยฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรงและมีความกระจ่างใส ช่วยลดเลือนรอยแดง และรอยดำสิวได้ไปในตัวด้วยครับ
5. กินยาเพื่อคุมสิวฮอร์โมน

มากไปกว่าการใช้ยาทาตามแพทย์หรือเภสัชกรแนะนำแล้ว หากต้องการดูแลรักษาสิวฮอร์โมนด้วยยาอย่างครอบคลุมและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน หมอขอแนะนำว่าให้ทานยาควบคู่ไปด้วย ซึ่งจะมีประสิทธิภาพในการรักษาสิวฮอร์โมนได้มากถึง 50-100% เลยทีเดียว
เนื่องจากยาเหล่านี้จะช่วยควบคุมการทำงานของต่อมไขมันที่ผิว รวมถึงช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนของร่างกายให้อยู่ในระดับที่สมดุล ซึ่งแพทย์จะทำการประเมินยาให้เหมาะกับลักษณะผิว และสาเหตุการเกิดสิวของแต่ละบุคคล ซึ่งจะช่วยลดการปะทุของสิว และช่วยลดการอักเสบของสิวเรื้อรังได้ดีอีกด้วย แต่ทั้งนี้ต้องรับประทานอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ด้วยนะครับ ถึงจะช่วยรักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
6. กดสิวอุดตัน

สำหรับใครที่มีปัญหาสิวเรื้อรังที่มาในรูปแบบของสิวอุดตัน วิธีที่จะช่วยกำจัดสิวเหล่านี้ได้รวดเร็วที่สุดเลยก็คือการกดสิวอุดตัน แต่ต้องกดโดยผู้ชำนาญการเท่านั้นนะครับ ควรหลีกเลี่ยงการกดสิวด้วยตัวเอง เพราะหากกดสิวผิดวิธี หรือกดออกไม่หมด ก็อาจทำให้สิวที่อุดตันเหล่านั้นพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบ เกิดการติดเชื้อ และทิ้งรอยแผลเป็นจากสิวที่รักษายากได้นั่นเองครับ
สิวฮอร์โมน ปัญหาสิวที่สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย เพราะเกิดจากการขาดความสมดุลของฮอร์โมนร่างกาย และยิ่งถ้าดูแลร่างกายไม่ดี มีภาวะเครียดบ่อย ทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ หรือมีพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้ระดับฮอร์โมนแปรปรวน ก็ล้วนทำให้เกิดปัญหาสิวฮอร์โมนซ้ำซากและรักษาได้ยาก แต่ไม่ต้องกังวลไปนะครับ เพราะเราสามารถรักษาสิวฮอร์โมนได้หลายวิธี ทั้งการทานยา ทายา ตลอดจนอาศัยหัตถการ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ เป็นต้น
สำหรับใครที่กังวลปัญหาสิวฮอร์โมน รักษาไม่หาย รักษาแล้วก็ยังเป็นอีก แนะนำให้มาลองปรึกษากับหมอที่ M Vita Clinic ได้เลยครับ เพราะเรามีการประเมินปัญหาสิวโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ และมีบริการดูแลปัญหาสิวฮอร์โมนด้วยโปรแกรมรักษาสิวที่หลากหลาย โดยหมอขอแนะนำ 2 โปรแกรมรักษาสิวฮอร์โมนยอดนิยม ดังนี้ครับ
- โปรแกรม Acni-Clear โปรแกรมทรีตเมนต์รักษาสิวฮอร์โมน 6 ขั้นตอน ออกแบบมาเพื่อปัญหาสิวฮอร์โมนที่มาในรูปแบบของสิวอุดตัน สิวผด หรือสิวไม่มีหัวโดยเฉพาะ รายครั้งเพียง 1,000 บาท หรือดูแลต่อเนื่อง 5 ครั้ง 4,500 บาท และ 10 ครั้ง 7,200 บาท

- โปรแกรม Medi-Aclear โปรแกรมทรีตเมนต์รักษาสิวฮอร์โมนและรอยสิวแบบครบจบใน 7 ขั้นตอน สามารถดูแลได้สิวอุดตัน และสิวอักเสบ พร้อมมีเลเซอร์ลดรอยแดง รอยดำจากสิวอีกด้วย รายครั้งเพียง 3,500 บาท 5 ครั้ง 10,500 บาท หรือดูแลแบบต่อเนื่อง 10 ครั้ง จ่ายเพียง 17,000 บาท

- โปรแกรม Ultima Clear โปรแกรมรักษาสิวรักษาสิวฮอร์โมนด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ Long Pulse Diode 1450nm ลงลึกสู่ต่อมไขมัน เพื่อยับยั้งการผลิตไขมันส่วนเกินจากฮอร์โมน ลดความมันบนผิวหน้า ช่วยป้องกันการเกิดสิวอุดตัน และสิวฮอร์โมนได้อย่างตรงจุด และยังมีส่วนช่วยลดรอยสิวในตัวอีกด้วย เพียงครั้งละ 3,950 บาท หรือเหมาะ 10 ครั้ง เพียง 19,800 บาท
รีวิว รักษาสิวฮอร์โมน












M Vita Clinic ยินดีให้คำปรึกษา ประเมินการรักษา ฟรี!
ติดต่อ จองคิว ปรึกษาแพทย์
ข้อมูลของ เอ็มวีต้า คลินิก (Mvita Clinic)
- เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
- อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
- เอ็มวีต้า คลินิก (คลิก) ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
- สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
- เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
- ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ
วันเผยแพร่