ฟิลเลอร์ร่องแก้ม อันตรายไหม ฉีดไปแล้วกี่วันถึงเห็นผล

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม อันตรายไหม

ฟิลเลอร์เป็นอีกหนึ่งในตัวช่วยยอดนิยมในด้านการแพทย์เสริมความงาม เพราะฟิลเลอร์จะช่วยเสริมสร้างโครงสร้างของผิวหนังให้กลับมาเต่งตึงและลดริ้วรอยต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาจากช่วงอายุที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการยกกระชับใบหน้า หรือปิดบังผิวหนังที่หย่อนคล้อยก็สามารถทำได้ด้วยการ “ฉีดฟิลเลอร์” ตามบริเวณผิวหน้าไปจนถึงตามร่างกาย และที่เราจะอยากแนะนำ คือการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หลายคนอาจพบปัญหาร่องแก้มลึก เห็นเส้นร่องแก้มได้ชัดเจน บทความนี้เราจะมาทำความรู้จักฟิลเลอร์ร่องแก้ม และอธิบายว่าฟิลเลอร์ต่างจากการฉีดโบท็อกซ์อย่างไร จะเป็นอันตรายหรือมีผลข้างเคียงไหม แล้วต้องรอกี่วันถึงจะเริ่มเห็นผล

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นการเติมสารไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไป เพื่อให้บริเวณที่มีช่องว่างระหว่างเซลล์ของผิวหนังได้รับการเติมเต็ม ทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ลง ยกกระชับใบหน้า บริเวณร่องแก้มที่เป็นหลุมก็จะดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน และมีผิวที่เรียบเนียน 

ทำไมคนเลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มมากกว่าใช้โบท็อกซ์

การฉีดฟิลเลอร์และโบท็อกนั้นมีวัตถุประสงค์ของการรักษาที่ใกล้เคียงกันมาก กลุ่มผู้ที่เลือกทำฟิลเลอร์หรือโบท็อกก็มักจะเป็นผู้ที่มีปัญหา ริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย เนื่องจากอายุที่มากขึ้นหรือจากสุขภาพร่างกาย เราเลยจะมาเทียบให้ดูแบบข้อต่อข้อเลยว่า ฟิลเลอร์และโบท็อกมีความแตกต่างกันยังไงบ้าง

เปรียบเทียบคุณสมบัติฟิลเลอร์โบท็อกซ์
วิธีการทำงานฟิลเลอร์ทำงานด้วยการเติมเต็มบริเวณใต้ผิวหนัง ทำให้ดูเรียบเนียนขึ้นโบท็อกซ์ทำงานด้วยการปิดกั้นสัญญาณประสาทที่ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการทำงานน้อยที่สุด 
บริเวณที่นิยมทำบริเวณที่ต้องการเติมให้ผิวดูตื้นขึ้น เช่น
– ร่องแก้ม – ริมฝีปาก – ร่องจมูก – ใต้ตา
บริเวณริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อเส้น เช่น
– ระหว่างคิ้ว – เส้นหน้าผาก – ตีนกา
ผลหลังการทำเห็นผลได้ทันทีหลังทำเห็นผลภายใน 3 – 7 วันหลังทำ
ระยะเวลาอยู่ได้นาน 6 – 18 เดือน แล้วแต่ประเภทของฟิลเลอร์และบุคคลอยู่ได้นาน 3 – 4 เดือนและต้องมีการเติมอย่างสม่ำเสมอ
ผลข้างเคียง/ความเสี่ยงโดยทั่วไปแล้วการฉีดฟิลเลอร์และโบท็อกซ์ มีความปลอดภัยสูงมาก เมื่อทำการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ก็อาจจะมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเช่น
– อาการบวม ช้ำ
– การติดเชื้อ (จากรณีมีแผลอักเสบใกล้เคียงจุดที่ทำหัตถการ)
– อาการแพ้
– ภาวะแทรกซ้อนจากการฉีด

จากตารางการเปรียบเทียบ จะเห็นได้ชัดว่าฟิลเลอร์นั้น เห็นผลได้ทันทีหลังการทำหัตถการ และยังมีระยะเวลาอยู่ได้นานกว่าโบท็อก คนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะเติมเต็มร่องลึกของริ้วรอยด้วยฟิลเลอร์มากกว่าการทำโบท็อกที่เป็นการลดเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ

รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

โดยทั่วไปแล้ว การฉีดฟิลเลอร์นั้นจะสามารถเห็นผลได้ทันทีหลังทำ ก่อนทำอาจจะมีร่องแก้มที่ลึกมากและเห็นเส้นได้ชัดเจน แต่หลังจากฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะเห็นผลได้เลยว่าร่องแก้มที่ตอนแรกลึกมาตื้นขึ้นทันที กรอบหน้าชัดขึ้น และฟิลเลอร์ก็อยู่ได้นานมากๆ ประมาณ 6 – 18 เดือน แล้วแต่ชนิดของฟิลเลอร์และสภาพผิวของแต่ละบุคคล

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มนั้น เป็นการเติมสารไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ที่มีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำบริเวณภายใต้ของชั้นผิวหนัง และจะสลายไปได้ด้วยตัวเองตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป แต่ต้องขอเน้นย้ำว่า ต้องเป็นฟิลเลอร์แท้เท่านั้น และกระบวนการทุกขั้นตอนต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ก่อนที่จะฉีดฟิลเลอร์ ควรสำรวจด้วยนะว่าเราอยู่ในกลุ่มของผู้ที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มหรือไม่

ผู้ที่ไม่ควรเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

  • ผู้ที่เคยมีประวัติการเป็นเริมที่ปาก (กรณีต้องการทำฟิลเลอร์ปาก ต้องปรึกษากับแพทย์ก่อน)
  • เคยมีประวัติการแพ้ยาชา (ต้องปรึกษากับแพทย์ก่อน)
  • อยู่ในช่วงการตั้งครรภ์
  • มีภาวะการอักเสบบริเวณที่ต้องการทำฟิลเลอร์
  • เคยมีประวัติการแพ้ส่วนประกอบของฟิลเลอร์หรือเส้นไหม
  • ตรวจพบภาวะเลือดไหลไม่หยุด (ต้องปรึกษากับแพทย์ก่อน)
  • อยู่ในช่วงใช้นมบุตร (ต้องปรึกษากับสูติแพทย์ก่อน)

ถึงแม้ว่าการรักษาภายใต้การดูแลของแพทย์ก็อาจมีผลข้างเคียงบางอย่างที่เกิดขึ้นได้ แต่ไม่เป็นอันตราย จากการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เช่น

  • อาการบวมและฟกช้ำ จากการเจ็บและการแทรกสารฉีดเข้าไปในผิวหนัง อาการบวมและแผลฟกช้ำเหล่านี้มักจะหายเองในระยะเวลาไม่กี่วันหรือสัปดาห์
  • การระคายเคือง อาจมีความรู้สึกคันหรือระคายเคืองบริเวณที่ได้รับการฉีดฟิลเลอร์ แต่ก็สามารถบรรเทาได้ด้วยการใช้ยาแก้ปวดตามที่แพทย์แนะนำ
  • อาการแพ้ บางคนอาจเกิดอาการแพ้ต่อสารของฟิลเลอร์หรือสารอื่นที่ใช้ร่วมกันในทำหัตถกรรม ผู้ที่มีประวัติการแพ้ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการทำการฉีด
  • การอักเสบ อาการอักเสบในบริเวณที่ฉีดหรืออาการต่างๆ เช่น ความรู้สึกคัน อาการเหล่านี้จะอยู่ได้ไม่นาน
  • รอยแดงหรือการติดเชื้อ อาการของรอยแดงหรือการติดเชื้อในบริเวณที่ฉีดเป็นข้อควรระวัง ควรรีบปรึกษาแพทย์หากมีอาการแบบนี้

ติดต่อ จองคิว ปรึกษาแพทย์

ข้อมูลของ เอ็มวีต้า คลินิก (Mvita Clinic)

  • เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
  • อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
  • เอ็มวีต้า คลินิก (คลิก) ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
  • สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
  • เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
  • ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ

วันเผยแพร่

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า