รวม 8 พฤติกรรมเสี่ยงที่ต้องเลี่ยง หากไม่อยากเป็นสิว

รวม 8 พฤติกรรมเสี่ยงที่ต้องเลี่ยง หากไม่อยากเป็นสิว

สิว ปัญหาผิวที่เกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย แม้ว่าจะดูแลรักษาผิวหน้าให้สะอาดอยู่เสมอแล้ว แต่ด้วยฮอร์โมน และกลไกบางอย่างทางร่างกายก็สามารถทำให้สิวเห่อขึ้นมาได้ รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสมต่าง ๆ ก็ล้วนมีส่วนทำให้เป็นสิวโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน ซึ่งจะมีพฤติกรรมเสี่ยงอะไรบ้างที่ต้องเลี่ยง หากไม่อยากเป็นสิว วันนี้หมอจะพาทุกคนมาเช็กลิสต์ไปพร้อม ๆ กันครับ  

พฤติกรรมการใช้ชีวิตเกี่ยวข้องกับการเป็นสิวอย่างไร

แม้พื้นฐานเดิมของการเกิดสิวจะมาจากการที่ร่างกายผลิตน้ำมันมาเคลือบบนผิวมากเกินไปจนอุดตันรูขุมขน และพัฒนากลายเป็นปัญหาสิวในที่สุด แต่รู้หรือไม่ครับ? ว่าจริง ๆ แล้วพฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่างของเราก็สามารถกระตุ้นให้เราเป็นสิวได้เช่นกันครับ ทั้งการสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ ตลอดจนพฤติกรรมการบริโภคอาหารบางอย่าง หรือแม้แต่พฤติกรรมการดูแลผิวหน้าที่ผิดวิธี เป็นต้น  

8 พฤติกรรมเสี่ยงที่ควรหยุดทำ หากไม่อยากเป็นสิว

หมอเชื่อว่าหลาย ๆ คนต่างก็พยายามดูแลรักษาสิวกันอย่างเต็มที่เพื่อให้ห่างไกลปัญหาสิวมากที่สุดกันอยู่แล้ว แต่บางครั้ง แม้จะดูแลดีเท่าไร ก็ยังคงมีปัญหาสิวบุก สิวเห่ออยู่ แถมหลังจากเป็นสิวแล้วก็ยังทิ้งรอยไว้ ให้ขาดความมั่นใจอีก ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ของปัญหาเหล่านี้ ก็คงหนีไม่พ้นพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ครับ เช่น  

1. พักผ่อนน้อย

พักผ่อนน้อย

การพักผ่อนน้อยมีส่วนทำให้สุขภาพร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันลดน้อยลง แถมยังส่งผลให้ระดับฮอร์โมนแปรปรวนอีกด้วย ในขณะเดียวกันก็ทำให้สุขภาพผิวอ่อนแอตามไปด้วยเช่นกัน จึงทำให้แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวเจริญเติบโตได้ดี และเกิดสิวขึ้นในที่สุดนั่นเองครับ 

2. ดื่มน้ำไม่เพียงพอ

ดื่มน้ำไม่เพียงพอ

หากในแต่ละวันเราดื่มน้ำสะอาดเพียงพอก็จะช่วยให้ร่างกายสามารถขับของเสีย และคงความชุ่มชื้นให้ผิวได้อยู่เสมอ สามารถป้องกันปัญหาผิวแห้งกร้านที่เป็นสาเหตุของปัญหาสิวได้ แถมยังช่วยให้เลือดไหลเวียนดี สามารถส่งสารอาหาร และออกซิเจนไปเลี้ยงผิวได้ดี จึงช่วยให้ผิวแข็งแรง ห่างไกลสิวนั่นเอง

3. ไม่ขับถ่ายทุกวัน 

ไม่ขับถ่ายทุกวัน

เช่นเดียวกับการดื่มน้ำให้เพียงพอ การขับถ่ายเอาของเสียออกจากร่างกายทุกวันก็ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวได้ เพราะถ้าหากของเสียไม่ถูกขับออก หรือมีอาการท้องผูก ก็จะส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ร่างกายก็อ่อนแอ และต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวได้น้อยลง แถมยังกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการอักเสบได้ จึงทำให้เป็นสิวได้ง่ายยิ่งขึ้น

4. ไม่ทำความสะอาดห้องนอน

ไม่ทำความสะอาดห้องนอน

เพราะเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเป็นสิว โดยเฉพาะเชื้อโรคในห้องนอน สถานที่ที่เราใช้เวลามากที่สุดในแต่ละวัน ก็จำเป็นต้องได้รับการทำความสะอาดอยู่เสมอ เช่น ควรหมั่นเปลี่ยนปลอกหมอน ที่นอน ผ้าห่ม รวมถึงเปลี่ยนผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า เป็นต้น หากทำความสะอาดสิ่งเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ รับรองเลยว่าจะช่วยลดการเกิดสิวได้ดีมาก ๆ เลยล่ะ 

5. มีความเครียดตลอดเวลา 

มีความเครียดตลอดเวลา 

ความเครียดมักทำให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนในระดับที่ไม่สมดุล แถมยังมีการสร้างอนุมูลอิสระออกมา ทำให้เซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายเสื่อมสภาพ หรือเสียสมดุล จนส่งผลให้สุขภาพร่างกาย รวมถึงสุขภาพผิว ทำให้ป้อมปราการผิวอ่อนแอ และเป็นสิวได้ง่ายยิ่งขึ้น 

6. ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น

ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น

แม้ว่าการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นจะทำให้รู้สึกสบายผิว แต่ก็ถือเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงทำให้เป็นสิวมาก ๆ เลยล่ะครับ เพราะมีส่วนทำให้ผิวของเราสูญเสียความชุ่มชื้น แห้งกร้าน และอ่อนแอจนเกิดปัญหาสิวได้ง่ายนั่นเองครับ 

7. สัมผัสใบหน้าบ่อย

สัมผัสใบหน้าบ่อย 

มือของเรามักสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันเต็มไปหมด ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจเต็มไปด้วยเชื้อโรค หากเรานำมาสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ ก็จะยิ่งเป็นการสะสมเชื้อโรค และก่อให้เกิดสิวได้ในที่สุดนั่นเองครับ 

8. บริโภคน้ำตาลมากเกินไป

บริโภคน้ำตาลมากเกินไป

การบริโภคน้ำหวาน หรือของหวานมากเกินไป ไม่เพียงแต่จะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น และส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ยังมีส่วนกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำมัน และไขมันที่ผิวหนังมากผิดปกติ จึงทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน และพัฒนาการกลายเป็นสิวอุดตันได้ในที่สุด 

คลินิกรักษาสิว

นั่งนานเป็นสิวจริงไหม

หลายคนก็อาจสงสัยว่า แล้วการนั่งนาน ๆ จะทำให้เป็นสิวไหม? คำตอบ คือ แม้ว่าการนั่งนาน ๆ จะไม่ใช่สาเหตุการเกิดสิวโดยตรง แต่ถ้านั่งนาน ๆ โดยไม่ลุกไปขับถ่ายของเสีย และนำสารพิษออกจากร่างกายเลย หรือไม่มีการขยับร่างกายให้ระบบเลือดไหลเวียนได้ดีเลย ก็อาจส่งผลให้ร่างกายทำงานผิดปกติ และทำให้เป็นสิวได้เช่นกัน ที่สำคัญการนั่งนาน ๆ ยังทำให้เกิดการอับชื้นบริเวณบั้นท้าย จึงทำให้เสี่ยงต่อการเป็นอักเสบที่บริเวณบั้นท้ายได้เช่นกันครับ 

อะไรที่กินแล้วสิวขึ้น

อะไรที่กินแล้วสิวขึ้น

อย่างที่หมอบอกไปแล้วเบื้องต้นว่า หนึ่งในพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เป็นสิวก็คือ การบริโภคของหวาน หรือบริโภคอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลมากเกินไป นอกจากนี้อาหารบางชนิดก็มีส่วนทำให้เป็นสิวได้เช่นกันครับ ไม่ว่าจะเป็น 

  • นมและผลิตภัณฑ์จากนมวัว เช่น ชีส และเนย 
  • กลูเตนในขนมปัง และเบเกอรี่ 
  • อาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูง เช่น เกลือ อาหารแปรรูป อาหารกระป๋อง และซอสชนิดต่าง ๆ 
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว พอจะมีพฤติกรรมเสี่ยงอะไรบ้างที่คุณกำลังทำกันอยู่รึเปล่าครับ? ถ้าเช็กลิสต์แล้วว่ามี หมอขอแนะนำให้รีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดังกล่าวโดยด่วนเลยนะครับ มิเช่นนั้นอาจทำให้สุขภาพผิวไม่แข็งแรง และทำให้เป็นสิวได้ครับ หากใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาสิวอยู่ หมอขอแนะนำให้รีบทำรักษา เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาสิวลุกลาม และเกิดเป็นรอยสิวในอนาคต 

คลินิกรักษาสิว

ซึ่งที่ M Vita Clinic เราโดดเด่นและชำนาญการเรื่องรักษาสิว รอยสิว รวมถึงหลุมสิวโดยเฉพาะ โดยหมอขอแนะนำเป็น 3 โปรแกรมรักษาสิวยอดนิยมที่สามารถดูแลปัญหาสิวได้อย่างครอบคลุม ทั้งสิวอุดตัน และสิวอักเสบ ตลอดจนรอยสิว หรือรอยหลุมสิวได้ ดังนี้ครับ

โปรแกรมรักษาสิวและเลเซอร์รอยสิว Medi-Aclear
  • โปรแกรม Medi-Aclear โปรแกรมทรีตเมนต์รักษาสิว และเลเซอร์ลดรอยสิวแบบครบจบใน 7 ขั้นตอน เริ่มต้นครั้งละ 3,500 บาทเท่านั้น สามารถช่วยทำความสะอาดรูขุมขน ลดการอุดตันจนกลายเป็นปัญหาสิว พร้อมลดเลือนรอยแดง รอยดำจากสิวได้อย่างดีเยี่ยม
โปรแกรมรักษาสิวและรอย ไม่ทานยา Ultima Clear
  • โปรแกรม Ultima-Clear โปรแกรมรักษาสิวแบบไม่ง้อการทานยา ทดแทนการทานยาด้วยการใช้เลเซอร์คุณภาพเยี่ยมอย่าง long pulse diode 1450nm ช่วยในการทำลายต่อมไขมัน ลดการเกิดสิวได้อย่างตรงจุด และใครที่กังวลว่ารอยสิวรักษายังไง? โปรแกรมนี้ช่วยคุณได้แน่นอน เพราะสามารถลดเลือนรอยดำ และรอยแดงสิวได้ด้วย โดยโปรแกรมนี้จะมีค่าใช้จ่ายรายครั้งเพียง 3,950 บาท / คอร์ส 10 ครั้ง 19,800 บาท
โปรแกรมรักษาหลุมสิว
  • โปรแกรม Angel touch โปรแกรมรักษาหลุมสิวที่ผสานนวัตกรรมทางการแพทย์หลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งเลเซอร์หลุมสิว Fractional Rf ด้วยคลื่นวิทยุรักษาหลุมสิว พร้อมด้วยการทำ TCA Cross และการใช้ตัวยาสูตรพิเศษอย่าง M Vita PDRN Solution ในการช่วยกระตุ้นหลุมสิวให้ตื้นขึ้น ปรับผิวใบหน้าให้เรียบเนียน สัมผัสการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ เพียงครั้งละ 4,500 บาทเท่านั้น

ติดต่อ จองคิว ปรึกษาแพทย์

ข้อมูลของ เอ็มวีต้า คลินิก (Mvita Clinic)

  • เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
  • อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
  • เอ็มวีต้า คลินิก (คลิก) ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
  • สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
  • เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
  • ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ

วันเผยแพร่

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า